เราเป็นคนที่อยู่กับใครไม่ได้ค่ะเป็นที่แย่มากๆค่ะ เริ่มแรกตอนป.5 ป.6 เราเล่นกับใครก็กำลังไปได้ดีแต่เรื่องที่ต้องทะเลาะกับเพื่อนส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่เพื่อนนินทาลับหลัง เรื่องที่เขาถามอะไรเรา เราตอบตรงๆตามความคิดเขาเอาไปพูดต่อให้คนอื่นฟังจนแปลเป็นอีกความแล้วมีเรื่องกัน ถ้าจะเล่าตั้งแต่เด็กคือเราก็มีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชายตลอดช่วงตอนป.4ที่เราไม่มีเพื่อนคบเพราะวันนั้นฝนตกเรายืมสมุดเพื่อนไปดูโจทย์การบ้านแล้วเราทำสมุดเพื่อนเปียกเพื่อนเลยงอนแล้วเพื่อนคนนั้นคือคนที่เป็นpopularในห้อง เพื่อนก็พาลไม่เล่นกับเรา แล้วพากันแกล้งเราสาระพัดทั้งแกล้งจากที่เราทำเวรข้างบนโดนไล่ไปทำข้างล่างโดยเพื่อนจะรีบมาแต่เช้ารีบทำให้เสร็จเเล้วเราไม่ได้ทำ ไปไหนมาไหนคนเดียว จะเล่นก็เล่นกับเพื่อนผู้ชายแต่เราจะพยายามเข้าหาเพื่อนที่เป็นpopular เขาให้ไรทำหมดแต่ก็เหมือนมันก็แค่นั้นสุดท้ายเราเหนื่อยป็เลยปล่อยๆไป ตอนใกล้จะปิดเทอมเป็นพิธีซ้อมรับเกัยรติบัตรนักเรียนเรียนดี เราได้ที่1 เขาได้ที่2 ในขณะที่ซ้อมเขาไม่คุยกับเรา แต่วันรับเขาคุยกับเราเพราะเราจะได้ย้ายโรงเรียนตามแม่ไปจ.สารคาม แต่ตอนนี้โตแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมเรารักเขานะคะแต่แค่อยู่คนละจังหวัด พอขึ้นมัธยม.1 เรามีเพื่อนสนิทมากๆคนนึงเขาเป็นคนรวยมาก นิสัยดีนะคะ แต่เขาจะชอบว่าเราเพราะเป็นคนซื่อบื่อนิดนึง แล้วเพื่อนคนนี้เวลาทำงานกลุ่มเขาชอบอยู่กลุ่มงานกับเราด้วยความที่เขาหัวไบรท์เราไม่ค่อยตามทันเขาก็สั่งงานเพื่อนในกลุ่มแต่เรากับเพื่อนบางคนไม่เข้าใจเราโดนไล่ออกจากกลุ่มงานบ่อยมากจนเราได้ทำเดี่ยวบ่อยๆ และเขาไม่มาเรียนเท่าไหร่เพราะเขาจะไปต่างประเทศกับครอบครัว ช่วงที่เขาไปเรียนต่างประเทศเราจะเล่นกับเพื่อนอีกคนแทนเป็นA เราเข้ากันได้ดีมากๆ พอเขากลับมาคนที่เป็นเพื่อนสนิทเราที่ไปต่างประเทศกับเรากับเพื่อนคนนั้นก็มาเล่นด้วนกัน ทำให้เรามีเพื่อนเพิ่ม แต่ในขณะนั้นพวกเราก็มีเพื่อนคนนึงที่เคยผิดใจกับAก็มาขอเล่นด้วย Aพยายามผลักเพื่อนออกแต่เราสงสารเลยพยายามเครียให้เพื่อน้ข้าใจกัน. ตอนนั้นเรารู้สึกว่าเราเป็นคนนึงที่เพื่อนรัก แต่จะมีเพื่อนคนนึงแทนด้วยB เขาไม่ชอบเราเพราะว่าเขาว่าเราเป็นเด็กเรียน แต่เราก็ไม่ได้ทะเลาะกันก็มีกลับบ้านด้วยกันเพราะมีเพื่อนไปด้วยหลายคนก็พูดคุยกันได้แต่เขาเป็นคนแรงๆสีหน้าก็ออกง่ายหน่อยแต่เราก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ หลังจากวันคริตสมาสเราถูกรถชนเพื่อนๆทุกคนพร้อมกับคุณครูช่วยกันสวดอ้อนวอนพระเจ้าเพื้อให้เรารอด เราหัวใจหยุดเต้นบ่อยจากการฟังมาจากครอบครัว เรานอนโดยไม่รู้ตัวประมาณ2สัปดาห์ หลังจากนั้นก็มาพักฟื้นอยู่บ้าน2 สัปดาห์ ในขณะที่พักฟื้นเราเหมือนคนเอ๋อพูดอะไรออกไปไม่รู้ตัว ใครพูดอะไรไม่รู้เรื่อง ไม่มีแรง ทำอะไรเองไม่ได้ปวดขี้ปวอดเยี่ยวก็ไม่รู้ตัว พ่ิอแม่ต้องดูแลเป็นพิเศษในระหว่างนั้นเพื่อนเราคนรวยๆก็มาเยี่ยมพร้อมขนมและเงินอีก3000มาให้ ตอนนั้นเพื่อนร้องไห้หนักมากเราจำได้รางๆที่เห็นหน้าเพื่อนและจากที่แม่บอกมา พอเราไปรร.3 วันแรกเราไม่รู้เรื่อง วันที่4เริ่มรู้ตัว เราพยายามพูดให้ชัด พยายามใช้ชีวิตให้เหมือนเดิม และเรามารู้อีกว่าเพื่อนในกลุ่มมีคนเพิ่มอีกคน เพื่อนคนนี้ก่อนเราจะเกิดอุบัติเหตุเราก็เฉยๆกับเขาแต่พอหลังเกิดอุบัติเกตุเรากลับไม่ชอบเขา แต่เราก็พยายามเล่นกับเขา ในตอนนั้นเราอารมณ์ไม่นิ่งเลยเราเห็นเพื่อนคนที่รวยกับA สนิทกันแทนเรา เราก็หงุดหงิดใส่เพื่อน และความหงุดหงิดทำให้เราและเพื่อนเริ่มมีช่องวางเพื่อนมนกลุ่มได้ของนั้นนี่จากการกลับจากต่างประเทศของเพื่อนยกเว้นเราที่เป็นของแสดงความเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน แรกๆเราก็น้อยใจพยายามไม่คิด แต่ด้วยความที่มีช่องว่างเพื่อนมีอะไรไม่บอกเรา เราเริ่มตัดสินใจเดินออกมาแต่ยังไม่ออกแต่เหตุการณ์ที่เราเดินออกมาเพราะเราโดนเพื่อนที่รวยที่สุดไล่ออกจากกลุ่มงานอีกครั้งด้วยเหตุผลที่ไร้สาระคือเขาบอกเราช่วยติดบอร์ดพอเราทำก็ว่าไม่ต้องพอเรารอเขาสั่งเขากลับว่าเราไม่ทำแล้วไล่เราออก เราอารมณ์ไม่นิ่งเหมือนแต่ก่อนเราเลยตัดสินใจออกจากกลุ่มไปอยู่อีกกลุ่ม เพื่อนกลุ่มนี้เป็นพวกที่ชอบเที่ยวตามประสาวัยรุ่น เขาดูแลเราดีทุกอย่าง ในช่วงปิดเทอมเราก็กลับไปอยู่กับยายที่ต่างจังหวัดในขณะนั้นเราก็เล่นกับเด็กแถวบ้าน ก็เพื่อนเดิมตอนป.5ป.6 และเขาก็นินทาลับหลัง เเกล้งเราเหมือนเดิมโดยที่เราไม่รู้สาเหตุเราเลยกลับไปบ้านแม่และไปอยู่กับเพื่อนกลุ่มใหม่แรกๆดีมากด้วยความเป็นเด็กอยู่ด้วยกันก็จะมีการโพสด่ากันบ้างเรื่องใช้ของๆกัน จนเราก็เสียใจ เกรงใจเขาเลยกลับบ้านไปหาแม่ ไม่นานก็คืนดีกัน ก็เล่นด้วยกันเหมือนเดิม เพื่อนคนนั้นคือB แต่พอเปิดเทอมเราเดอนเข้ารร.กับBเพื่อนทุกคนในกลุ่มกอดกันกรี๊ดกร้านทักทายกันยกเว้น เราก็พยายามคิดืเราเพิ่งเข้ากลุ่มเขาต่อมาเรื่อยเราก็ไปเล่นไปเที่ยวกับเพื่อนเริ่มกลับบ้านค่ำเป็นบางวันครอบครัวบอกไม่ฟัง ใช้เงินเปลือง. ช่วงนั้นการเรียนตกเราเริ่มเครียดที่เราเป็นแบบนี้จากที่ครอบครัวเลยเคยด่าเราก็มาคิดแล้วก็มาลงที่เพื่อนแต่ยังไม่หนัก พอมีเด็กใหม่เข้ามาแทนเป็นCเข้ามา เขาชอบตอบครูตัดเราเพื่อนถามงานเราก็ตัดหน้าเราตอบ ด้ววความไม่ชอบที่เขาแย่งเราตอบแบบน่าหมั่นไส้แล้สอิจฉาเราก็แขวะเขา เพื่อนคนรวยๆย้ายไปอีกรร. ในตอนนั้นเรากับเพื่อนกลุ่มใหม่ก็มีทะเลาะกันคือเรากับB เพราะยายของBหูตึงและเป็นห่วงหลานมากแล้วชอบมาถามเรา เราบอกท่านไปอีกอย่างแต่บางครั้งท่านเข้าใจอีกอย่างทำให้เป็นเหตุผลให้เราทะเลาะกันทุกครั้งที่ทะเลาะกันเพื่อนในกลุ่มเหมือนจะให้ความเข้าใจมันมากกว่าเรา เราเครียดอะไรปรึกษาคนในกลุ่มเรามักถูกด่าเราเลยระบายกับเพื่อนนอกกลุ่มจนกลายเป็นการนินทา สุดท้ายเราเลยได้ออกจากกลุ่มแล้วเพื่อรก็เริ่มเกลียดเราทั้งหมดห้องและตอนนั้นเราคิดในเมื่อไม่มีใครเข้าใจเราทั้งๆเราอธิบายก็ไม่ต้องสนใจทำไรทาทำคืน แล้วเราเลยกลับมาเล่นกับกลุ่มเดิมแต่มีเด็กใหม่คือC เข้ามา กลุ่มเรามี4คนเพราะคนรวยๆย้ายออกจากรร. เราคิดว่าจะเริ่มชีวิตใหม่แต่พอเพื่อนไปกินข้าวเรียกกันทุกคนแต่ไม่เรียกเราคุยอะไรกันก็ไม่มีเรา เราเลยกีดกันเพื่อนออกจากกันเผื่อเพื่อนจะได้สนใจเราบ้างเราด่าเพื่อนเพื่อนโวยวายใส่เพื่อนประจำเอาแต่ใจตลอด เเล้วคิดว่าเพื่อนCจะเอาชนะเราเพราะเราแข่งเขาพอเราได้คะแนนเยอะกว่าเขาดูหน้าแบบไม่เป็นไรแบบเหมือนเขาอยากสู้ เราด้วยความติดนิสัยปากมากเราเลยพูดไปโดยไม่คิดหลายอย่างกับเพื่อน ด้วยนิสัยแบบนี้เพื่อนในกลุ่มก็ไปนินทา ไปเล่า ไประบายกับเพื่อนกลุ่มอื่นเรารู้ก็ทะเลาะกันอีก ตอนนั้นเพื่อนห้องทุกกลุ่มก็เริ่ทแตกออกจากกันไม่ใช่แค่กลุ่มเรา นินทากันไปมาเราจำได้ว่าเคยว่าBว่า เพราะBมีรถเพื่อเลยเล่นด้วย ก็นินทาไปเรื่อยตามประสาเด็กเพราะคิดว่าเขาก็ว่าเรา จนมาถึงม.3 เราก็เป็นเหมือนเดิมแต่เบาลงเราและตอนนั้นมีเด็กใหม่ย้ายมา3คน มี2คนที่เก่งมากเพื่อนเด็กใหม่อีกคนอยู่กลุ่มเราแต่เขา

ทำทุกอย่างให้เพื่อนสนใจเขาเราพยายามบอกเพื่อนแต่เพื่อนไม่ฟังคนเขาเผยธาตุแท้จนเพื่อนเกลียดเลยต้องย้ายรร.ไป เพื่อนเด็กเก่งอีกคนก็อยู่กับเราเพราะเขาทะเลาะกับเพื่อนสนิทเขา ตอนนั้นเรามีความสุขกับเพื่อนอยู่พักนึงแล้วก็ทะเลาะกันแยกจากกันเพราะเราแบ่งกลุ่มงานโดยไม่ฟังเพื่อนแล้วงานก็กลุ่มเราก็ดีตัดหน้าเพื่อนทำให้เริ่มทะเลาะกัน เราเป็นครพูดไม่คิดมากขึ้นคิดยังไงรู้สึกไงพูดหมดไม่มีเก็บทั้งลับหลังและต่อหน้า ช่วงนึงตอนม.3เราได้เล่นกับเพื่อนกลุ่มอื่นอยู่พักนึงคิแไปนอนบ้านเขา เราเคยพูดไม่คิดให้เพื่อนคนฟังขำๆเกี่ยวกับข้อเสียบ้านเพื่อนคนนั้นให้Bฟังเพราะเราก็มีคุยกันเล่นด้วยกัน นอนบ้านกันบางครั้ง แล้วเพื่อนกลุ่มBคือเอาจริงก็เป็นเหมือนเราพูดจนตอนนี้เลิกยุ่งกันไปหลายคน บางคนก็ห่างๆกัน ส่วนคนที่เราไม่ได้ว่าเขาเขาก็รักกันเหมือนเดิมทุกอย่างไม่ได้เป็นเพราะปากเราหรอกเพราะตอนเราพูดเพื่อนก็ไม่ชอบอยู่แล้วนานๆไปสันดารเริ่มออกเลยพากันเลิกคบกันไปเราปากหมาปากมากอยู่แล้ว จากที่เราเจอตั้งแต่เด็กจนโตเราเลยคิดว่าไม่มีเพื้อนคนไหนจริงใจกับเราเราก็รักเพื้อน เพื่อนก็รักเราแต่เราก็ระแวงเราเลยพูดทุกอย่างที่เราคิดโดยไต่ตรอง จนช่วงนึงเราทะเลาะกับเพื่อนกลุ่มเด็กเที่ยวจนตีกันเพื่อนในห้องเกลียดเราหมดยกเว้นเพื่อนเด็กเก่งอีกคนที่อยู่กับเรา เรามีความสุขที่มีเขาคิดในใจเพื่อนคนนี้กูต้องรักษาไว้ให้นานที่สุดปากมากพยายามเลิกต่อมาเพื่อนก็กลับมาเล่นกับเราเหมือนเดิมทุกคนในห้อง แต่เพื่อนคนที่รียนเก่งแทนเป็นEเริ่มทำตัวออกห่างเราโดยเราไม่รู้สาเหตุปกติเราชวนไปไหนก็ไปเราก็ซื้อนั่นนี่ให้ เราให้เขาในสิ่งเราหาได้ เราไม่เคยด่าเขา ไม่เคยเอาแต่ใจเราตามเขาเพราะคิดว่าเขาดีที่สุดในวันที่เราแย่เรามีเขา สุดท้ายเรามารู้ทีหลังว่าเขาไปไหนกับเพื่อนคนอื่นเลยไม่ไปกับเราน้อยใจแต่ก็ไม่เป็นไรเราเล่นทรส.เขาเห็นรูปเขากับเพื่อนเราก็แซวๆเชิงถามเขาก็เอาทรส.ออกจากมือเรา เราเคยนัดกันว่าจะไปซื้อใบสมัครสอบรร.เดียวกันสุดท้ายเขาไปซื้ออีกรร.กับเพื่อนคนอื่นแล้วก็ไม่บอกเราเราเสียใจยอมรับว่ทงอนแล้วเขาก็งอนเรากลับ ก็ไม่คุยกันแล้วก็มาคุยกันตอนม.4ช่วงนึงเพราะเรียนคนละอำเภอด้วยพอม.5มาเขาก็ทำเหมือนไม่อยากรู้จักเราเราบอกฟอลไอจีเราหน่อยทั้งๆที่เขามีเน็ตแต่ไม่ทำเราหาข้ออ้างไปเรื่อยเราก็เล่าเรื่องให้เพื่อนฟังเพื่อหาคำตอบแต่เพื่อนว่าเราคิดมากเราเคยปรึกษายายของBท่านพูดประมาณว่าเขาไท่อยากคบกับเราเพราะฐานะรึเปล่าประมาณนี้เราเลยบอกBว่าเราคิดว่าเขาไม่อยากคบเราเพราะเรียนบ้านนอก จริงๆที่เราได้ไปเรียนบ้านนอกเพราะครอบครัวจะแยกเราจากเพื่อนแต่เรากับBรู้สึกสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆช่วงปิดเทอมม.4เราก็มีมาอยู่กับBบ้างช่วงนั้นเราเครียดทั้งทะเลาะกับครอบครัวที่หนักทั้งหลายเรื่องเราไม่กล้าปรึกษาBเพราะมีบางเหตุผล เราเลยปรึกษาA Bเห็นข้อความเราเลยไปถามAเเล้วข้อความมันดํไม่มีอะไรเราไม่ได้ทะเลาะกัน ม.5มา ครอบครัวเรายิ่งห้ามมากขึ้น เราอยู่กับน้าสะใภ้ น้าเขาด่าเราด่าพ่อเเม่เราเรื่องเงินทั้งBบอกให้เรามาหาถ้าเราไม่มาจะไม่คุยกับเราทั้งเราโกรธที่บ้านกลัวเสียเพื่อนเลยมาหาB ที่บ้านเลยตัดเลยไล่ออกจากบ้าน เราเลยมาอยู่กับB ครอบครัวB ดีกับเรามาก เรามีความสุขมากแต่เราไม่สามารถบอกความหรือเตือนBในเรื่องที่ไม่ดีได้เลยเราเป็นตัวเรามากไม่ได้เพราะกลัวเสียเพื่อน จนวันนึงเราโดนด่าเรื่องมารยาทเพราะเราเวลาอยู่กับเพื่อนเราจะโดนว่าเรื่องมารยาทที่หยิบของเพื่อนโดนไม่ขอและเราทะเลาะกับเพื่อนที่รร.เราเลยระเเวงเพื่อนB เพราะเรากลัวBจะนินทาเราเราเขาพูดว่าเขากับAและEเรื่องเราว่าเราชอบคิดมากเเละคิดไปเองเราเลยทักไปถามA B. รู้เรื่องเลยทะเลาะกันใหญ่โตและเล่าก็ได้ด่าAเพื่อเค้นหาความจริงสุดท้ายAส่งไปหาB สุดท้ายทะเลาะกันเราผิดเรายอมรับเเต่มีเรื่องอะไรเรามักจะปรึกษาน้องเราที่อยู่ต่างประเทศ Aเห็นเลยโกรธแต่ก็คืนดีกัน ครั้งสองเราต้องกลับบ้านกับB เพราะเราอยู่บ้านเขาเขาให้เราไปหาหน่ารร.แต่เราอยู่ฝั่งตรงข้ามเราไท่กล้าเดินไปอายเพื่อนๆเขาเพราะเขาเพิ่งลงจากรถทัศนะศึกษารร.และเรากำลังชาร์ตทรส.ว่าคุยกับแม่เรื่องเงินพอดีเลยให้เพื่อนขับมาฝั่งตรงข้ามแต่เพื่อนโกรธก็ทะเลาะกันใหญ่โตแต่ก็ให้อภัยแต่ตอนทะเลาะก็เกือบตีเรา ครั้งสุดท้ายที่โดนเพื่อนทุกคนตัดเพราะเขามาเซอร์ไำรวันเหอดเพื่อนM แต่เราไม่รู้เราน้อยใจเลยไม่ลุกไปแฮปกับเพื่อนนอนดูในใจก็ลังเลจะไปดีไหม เรารู้สึกเหมือนB งอนเราก่อนหน้าเราคิดมากเราเลยไปปรึกษาN แล้วNทีปัญหากับเพื่อน ไม่คบเพื่อนคบแค่บางคนมาสักพักแต่Nเคยมีปัญหากับเราแต่ม.ปลายมาเราก็ทักไปคุยกับเขาบ้าง วันนั้นเป็นไม่รู้เราเลือกที่ไประบายแล้วก็ปรึกษาNเราก็เล่าไปทุกเหตุการณ์ที่เราน้อยใจวันนั้นเเล้วพูดไม่คิดไปสอง2ประโยคที่ร้ายๆจากความน้อยใจคือ“อยากมีเพื่อนดีมั่งอ่า"กับ“....นิสัยดีนะแต่...กับ...ไม่แน่ใจ"

เราเคยปรึกษายายBยายB บอกเขาไม่จริงใจหรอกทั้งการกระทำ สายตาตอนเขาอยู่กับเรา) เราน้อยใจเพื่อนมาเรื่อยๆปกติปรึกษาน้องที่อยู่ต่างประเทศแต่วันนั้นคงเป็นวันซวยเราปรึกษาระบายกับN เเล้วNก็ไปบอกทุกคนจนทะเลาะถึงขั้นตีกัน เราถามNว่าทำแบบนี้ทำไมNบอกเพราะเราเคยนินทาN เราเลยบอกว่าNนินทาเราก่อนเเล้วNเป็นจริงๆคนอื่นก็พูดหมดทำไมว่าเราคนเดียวสุดท้ายเพื่อนตัดเราทิ้งทุกคน (อุทาหร)
เพื่อนเลิกคบเพราะปาก